เกริ่นนำ
ในโลกของทางเลือกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์และบริการต่างมีเอกลักษณ์น้อยลง แบรนด์จึงต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค คุณจะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบที่ไม่มีคู่แข่งมาแทนที่ และดึงดูดผู้คนให้ร่วมเดินทางไปกับธุรกิจของคุณได้อย่างไร
บางคนอาจกล่าวว่าการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า ความสะดวก ราคาที่ต่ำกว่า หรือความพิเศษเฉพาะตัว แต่คุณจะทราบหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่กำหนด ‘เอกลักษณ์ของแบรนด์’ หรือ ตัวตนของแบรนด์ ให้ลูกค้าประทับใจอยู่ตลอดเวลา
การรับรู้ของผู้บริโภค
ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคไม่ได้เพียงแค่ซื้อสินค้าหรือบริการอีกต่อไป พวกเขาซื้อแบรนด์ พวกเขาเลือกที่จะเชื่อ ไว้วางใจ และให้คุณค่ากับแบรนด์ ดังนั้นจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าความภักดีต่อแบรนด์ การรับรู้ถึงความเหนือกว่าของแบรนด์ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จ ของแบรนด์ เราขอยกตัวอย่างโควทจากคุณ L. Speisser กล่าวว่า “แบรนด์ที่ยอดเยี่ยมก็เหมือนเพื่อน – คุณพบพวกเขาจำนวนมากทุกวัน แต่คุณจำเฉพาะคนที่คุณรักจริงๆ เท่านั้น”
ความแตกต่าง
ธุรกิจจำนวนมากสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่าน Data การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาเชิงสินค้าแบบสร้างสรรค์ และกระบวนการจัดการ แต่อย่างไรก็ตามมีบางแบรนด์บางกลุ่มเพียงแค่ขายสินค้าหรือบริการและไม่มีจุดเด่นของแบรนด์ แต่กลับสร้างมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะทำเองหรือจ้างนักวางกลยุทธ์แบรนด์มาช่วย สิ่งสำคัญคือ ความแตกต่าง
ความแตกต่างช่วยสร้างการรับรู้และประสบการณ์ที่ดีให้แก่แบรนด์ของคุณ รูปแบบการซื้อสินค้าหรือความประทับใจจากการซื้อสินค้า จะช่วยกำหนดรูปแบบการรับรู้ การรับรู้อาจเป็นไปในทางบวกหรือทางลบ ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากต้องใช้เวลามากในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เชิงลบให้เป็นบวก ลูกค้าที่มีความสุขจะแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขากับสังคมพวกเขา ส่งเสริมธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นในทางอ้อม สิ่งเหล่านี้ถือว่ามีค่าต่อแบรนด์อย่างมาก
ราคาที่เพิ่มขึ้น จากตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจน
จุดเด่นของแบรนด์จะกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงของธุรกิจที่ดำเนินตามภารกิจและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร เหตุใดผู้คนจึงยินดีจ่ายเงินเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์หนึ่ง แม้ว่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นจะให้คุณประโยชน์เท่ากัน สาเหตุที่ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์นี้และยอมที่จะจ่ายมากขึ้นก็เพื่อเค้าประทับใจในตัวตนของแบรนด์ที่เราสร้าง ดังนั้นหากเรามีมาสคอตหรือตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจนเป็นทุนเดิม เราสามารถใช้จุดเด่นนี้เพิ่มราคาสินค้าและนำไปพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าต่อไปได้อีกด้วย